พาดู Android Emulator 2.0 ของขวัญปีใหม่นักพัฒนาแอนดรอยด์ เร็วกว่า ดีกว่า กินแรมเท่าเดิม

Posted on 11 Dec 2015 21:11 | 15362 reads | 0 shares
 

ในงาน Android Dev Summit ที่ผ่านมา สิ่งที่ฮือฮาที่สุดคงจะหนีไม่พ้นการเปิดตัว Android Studio 2.0 พร้อม Android Emulator 2.0 ที่ทางทีมพัฒนาโฆษณาว่าเร็วกว่าเดิมมาก และสามารถ Deploy ได้เร็วขึ้นถึง 5 เท่า

ล่าสุดไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้ ทีมแอนดรอยด์เพิ่งปล่อย Android Emulator 2.0 ออกมาให้ทุกคนได้เล่นกัน ก็เลยเอามาเขียนเล่าให้ฟังกันครับ

การติดตั้ง

ก่อนอื่นก็ขอพูดถึงการติดตั้งก่อนเพื่อที่ทุกคนจะได้เล่นไปด้วยกัน ^_^

อย่างแรกที่ต้องติดตั้งก่อนก็คือ Android Studio 2.0 Preview 3b ซึ่งตอนนี้มีให้อัพเดตบน Canary Channel เท่านั้น ให้กดไปที่ Help -> Check for Update... แล้วปรับช่องด้านบนให้เป็น Canary Channel จากนั้นจะมีอัพเดตตัว Android Studio 2.0 มาให้อัพครับ

เจ้า Android Emulator 2.0 นี้มาพร้อมกับ Android SDK Tools v25 เป็นต้นไป ดังนั้นอย่างแรกที่ต้องลงผ่าน SDK Manager คือ Android SDK Tools v25 rc1 ครับ หรือหากตอนที่เปิดอ่านบล็อกนี้เป็นเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่านี้ก็ให้ลงตัวที่สูงกว่านี้ได้เลย

และที่มันเร็วขึ้นได้ก็เพราะความช่วยเหลือของ HAXM ตัวใหม่ล่าสุด 6.0.1 ดังนั้นให้โหลด Intel x86 Emulator Accelerator (HAXM installer) ตัวล่าสุดมาด้วยครับ

ซึ่งตรงนี้มันก็เขียนไว้แล้วว่ามันจะโหลดมาเฉพาะตัวติดตั้ง (Installer) เท่านั้น หน้าที่ในการติดตั้งเป็นของเรา ให้กดเข้าไปในโฟลเดอร์ของ Android SDK แล้วตามด้วย extras/intel/Hardware_Accelerated_Execution_Manager จะเจอตัวติดตั้ง ให้กดติดตั้งให้เรียบร้อย

สุดท้ายให้โหลด Android 5.0 - Google APIs Intel x86 Atom System Image rev 10 มาเพื่อใช้เป็นรอมครับ

เป็นอันเรียบร้อย พร้อมใช้แล้ว! =)

ทดสอบ

เราขอข้ามเรื่องการสร้าง Android Virtual Device ไปเพราะน่าจะเป็นกันทุกคนอยู่แล้ว ก็สร้าง AVD ขึ้นมาโดยใช้ System Image ตัวที่เราโหลดมาด้านบนนั้น ส่วน Hardware จะเป็นอะไรก็ได้แล้วศรัทธาครับ

จุดเด่นนึงของ Android Emulator 2.0 คือเราสามารถกำหนดจำนวน Core CPU ให้กับ Emulator ได้ด้วย โดยปกติหากไม่กำหนดจะถือว่าใช้ Core เดียวครับ แต่ถ้าอยากเพิ่มก็กดที่ Show Advanced Settings ได้เลย

จากนั้นก็กด Launch AVD ขึ้นมาได้เลย

ได้ตัวใหม่มาแล้ว! หน้าตาเปลี่ยนไปโดยมี Toolbar อยู่ด้านขวาอย่างที่เห็น

เท่าที่ลองโดยรวมต้องบอกว่า Emulator สตาร์ทขึ้นมาเร็วกว่าเดิมพอสมควรและทำงานได้ลื่นกว่าเดิมมากเช่นกัน แต่ถ้าให้เทียบ ยังถือว่าช้ากว่า Genymotion อยู่เล็กน้อยครับ

ความสามารถพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดคือ ... หน้าต่างสามารถย่อขยายได้ง่ายๆแล้ว !

ฟังก์ชั่นเสริมที่แต่ก่อนต้องมานั่งทำผ่าน Command Line อย่างยากลำบากเช่น GPS, Fingerprint, การจำลองการโทรเข้า, ส่ง SMS ฯลฯ ตอนนี้สามารถจิ้มผ่าน GUI ได้ง่ายๆแล้ว

ตรงนี้ต้องบอกว่าประทับใจมากๆเพราะฟีเจอร์ครบถ้วนจริงๆ คิดอยากจะใช้ฟังก์ชั่นอะไรก็เรียกได้ว่ามีครบหมดแล้วและใช้ง่ายมากๆด้วย =)

ความเร็วในการ Deploy ถือว่าเร็วมากถึง 50MB/s

$ adb -s emulator-5554 install app-release.apk
        pkg: /data/local/tmp/app-release.apk
Success
51410 KB/s (6160590 bytes in 0.117s)

ซึ่งถ้าเทียบกับอุปกรณ์จริงอย่าง Samsung Galaxy Note 3 LTE นั้นทำความเร็วได้แค่เพียง 5MB/s ซึ่งดูแล้วน่าจะทำให้การทดสอบทำได้เร็วขึ้นมากด้วย เยี่ยมครับ ต่างกัน 10 เท่าเชียวน้าาา

เท่าที่ลองดูถือว่าแฮปปี้เพียงพอที่จะใช้แทน Genymotion แล้ว เพราะฟังก์ชั่นครบและฟรี 100% แต่สิ่งที่น่าจะเป็นจุดอ่อนของ Android Emulator ตัวนี้คือ กินแรมเยอะมากกกกก

ก็ซื้อแรมมาถวายมันกันครับ 555

โดยรวมถือว่าแฮปปี้มากกับพัฒนาการครั้งนี้ ก่อนหน้านี้หงุดหงิดกับ Emulator ของ Android SDK มาก แต่ตอนนี้ต้องบอกว่าประสบการณ์เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเยอะมาก หากเครื่องมีแรมเหลือเฟือ (8GB เป็นต้นไป) ก็สามารถใช้เป็นตัวหลักได้เลยครับ ไม่ต้องไปใช้ตัวอื่นละ =)

ผู้เขียน: nuuneoi (Android GDE, CTO & CEO at The Cheese Factory)
นักพัฒนาแบบ Full-Stack ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาแอพฯแอนดรอยด์มากว่า 6 ปีและอยู่ในวงการพัฒนาแอพฯมือถือมากว่า 12 ปี มีความสนใจทางด้าน Infrastucture, Service Side, Design, UI&UX, Hardware, Optimization, Cooking, Photographing, Blogging, Training, Public Speaking และรักที่จะแชร์เรื่องราวให้ผู้คนได้อ่านได้ฟังกันผ่าน Blog